วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การบริโภคสื่อของผู้ที่เรียกตัวเองว่า ผู้มีการศึกษา.....

มาได้อีก กับประเด็น เรื่องของ จดหมายของ นางฮิลารี คลินตัน ที่มีต่อนายกยิ่งลักษณ์

ไม่วายถูกพวกขี้อิจฉา นำมาเป็นประเด็น



แต่ที่น่าขำกว่า คือ คนที่นำข้อมูลมาบิดเบือน มิใช่คนอื่นคนไกล ....

นั่นคือ Website Thaiinsider.com เจ้าของ site นี่ก็ผู้ประดิษฐ์วาทกรรม "หญิงเหนือขายบริการ"

นั่นคือ "นายเอกยุทธ อัญชันบุตร"

ในการบริโภคข่าวสาร หลักการที่สำคัญคือ "จะต้องรู้ว่าใครให้ข่าว และผู้ให้ข่าวน่าเชื่อถือเพียงใด"

น่าเสียดายที่ผู้แชร์ต่อบทความนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย

 เวลาที่สอนสั่งศิษย์ มักเน้นเสมอถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูล แหล่งที่มาของข้อมูล

แต่พอคราตนเอง กลับไม่เหลือร่องรอยของผู้มีความรู้ ครูบาอาจารย์ อีกเลย

ผมจะย้ำให้ฟังนะครับ สลิ่มผู้มีความรู้ที่มักบอกว่าตนฉลาดกว่าผู้อื่น....

Website อันเป็นแหล่งที่มาของข่าวที่ท่านนำมาแชร์ คือ thaiinsider.com เจ้าของคือ

"  นายเอกยุทธ อัญชันบุตร"   ผู้ต้องหาในหมายจับคดีฉ้อโกงเงินประชาชนในกรณี 


 "แชร์ชาร์เตอร์ "  

นายเอกยุทธ เดินทางออกนอกประเทศหลังจากมีข่าวว่าทางการจะออกหมายจับเมื่อกลางปี พ.ศ. 2528
โดยหลบหนีไปอยู่ เยอรมันนี และ สวิตเซอร์แลนด์ ร่วม 20ปี เรื่องของแชร์ชาร์เตอร์ดังกล่าว 
ได้สร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศนับพันล้าน มีผู้ตกเป็นเหยื่อนับหมื่น


นายเอกยุทธ กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ปี 2547 เข้าประเทศได้เพราะคดีหมดอายุความ... 
มีส่วนร่วมในการโจมตีรัฐบาลของ พตท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด


ถ้า   สลิ่ม จะพูดว่า เสื้อแดงโง่เชื่อนักโทษชายทักษิณ (คดีเซ็นต์ชื่อให้ภรรยาซื้อที่)


แต่   สลิ่ม เลือกจะเชื่อ นักโทษคดีฉ้อโกงเงินของประชาชนนับพันล้าน 


บอกได้ว่า... สลิ่มครับ การศึกษาของพวกคุณ ไม่ได้ทำให้ปัญญาของท่านฉลาดมากไปกว่า
ผู้ที่ท่านดูถูกเขาว่าไม่มีการศึกษาเลยครับ


สลิ่มครับ...ท่านจงเชื่อคนเหล่านี้ ไปเรื่อยๆ เถิด เวลาที่ผ่านไปจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่า


ใครกันแน่ที่โง่...ในประเทศนี้

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

"สลิ่ม"... เลิก "เสล่อ" ได้แล้ว...

เป็นเรื่องน่าอายแทนเป็นอย่างมาก... ที่บรรดาสาวกสลิ่มทั้งหลาย มิได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง

ว่าตอนนี้... พรฏ.อภัยโทษ ที่กล่าวกันว่า จะนำ อดีตนายกทักษิณกลับบ้าน ....

แท้ที่จริงเป็นเรื่อง "โอ้ล่ะพ่อ" ตามเคย...

Clip นี้ ถูกแชร์โดยบรรดาสาวกผู้ไม่นิยมชมชอบ ทักษิณ ชินวัตรอย่างแรง...



ซึ่ง ณ เวลาที่แชร์.... เขาประกาศออกมาแล้ว..ว่า "ไม่มีชื่อทักษิณ" อยู่ในโผ

ถึงขั้น อดีตนายกส่ง จดหมายมาจาก ดูไบแล้ว..ว่าไม่ต้องการเรื่องดังกล่าว...


"ความเสล่อ" ของ สลิ่ม... ก็มีมาไม่เว้นแต่ละวัน....

อันนี้...ยิ่งเสล่อ หนัก....



เนื้อหาใจความโดยสรุปคือ ยกเอาร่าง พรฎ.อภัยโทษปี 2549 มาพูด โดยอ้างว่ามีการตัดมาตรา
ออก 2-3 มาตรา.. ซึ่งเจ้าตัวเอง ก็ไม่ได้รู้ว่าตัดจริงหรือไม่...

ไม่รู้ว่า จนถึงกระทั่งเวลานี้...เจ้าของคลิปทราบหรือยัง พรฎ. ดังกล่าวในฉบับที่จะใช้ในปี 2554
มันเป็นอย่างไร...

DJ ท่านเจ้าของคลิปทราบหรือไม่... ว่าการประชุมเรื่องพรฎ.ดังกล่าว

"การประชุมลับ" ถือเป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันเป็นธรรมเนียมทุกปี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องความไม่พอใจ
ของผู้ต้องขัง ซึ่งก็ทำกันมาเป็นชั่วนาตาปี..ครั้งนี้ก็ทำเหมือนเดิม

นี่แสดงให้เห็นถึง "ความไม่รู้" ในสิ่งที่พูด... การพูดในสิ่งที่ไม่รู้ คือ "การโกหก"

ถ้าเอาให้แรงขึ้นคือ... "โง่ แล้ว อวด ฉลาด"

ในเมื่อเจ้าของคลิป บอกตอนต้นรายการว่าตนจบนิเทศฯมา...อาจไม่มีความรู้มากพอ....

"เอ้า! ไม่รู้แล้วพูดทำไมล่ะครับ...."

พออ่าน comment ของคลิป... เหนื่อยใจได้อีกว่า บรรดาสาวกสลิ่มทั้งหลาย ไม่ได้เคยได้เสพข่าว
แบบทันเวลาเลย ยังคงยึดติดกับ "ข่าวเก่า" หรือ "ข่าวที่ตนเองพึงอยากฟัง"

ส่วนความจริงปัจจุบัน เป็นอย่างไร...ฉันไม่สน...ในลักษณะที่ว่า "ข้าจะด่า เอ็งจะทำไม"....

นี่ก็อีกตัวอย่างของ comment ผู้แชร์


เท่าที่ทราบ.. รัชกาลที่ 7 หรือเปล่าครับ... น่าจะมีอะไรผิดพลาดในกระบวนการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

อย่างรุนแรง... เขาคงจะไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์จริงๆกระมัง ที่ขำกว่าคือ มีคนมา Like ให้อีก...

มันเป็นแบบนี้ไงครับ "ผู้มีการศึกษาทั้งหลาย" ประเทศมันถึงไม่เดินหน้า เพราะ มันไม่รู้จักฟัง....

"มันไม่รู้จักคิด" "มันรู้แต่จะยึดติด"

รู้จักแต่จะ "เดา" "คิดเอาเอง" ไม่หาเหตุผล หรือ ฟังความมันรอบด้านแล้วใช้ปัญญาที่ตนเองบอกว่า
มีอยู่มากมายกว่าคนอื่นๆ มาพิจารณา

มันเป็นกันแบบนี้ ประเทศมันถึงเดินย่ำไปมา....ได้แค่นี้

(วินาสกาเล วิปริต พุทธิ - เมื่อถึงกาลจะวินาศ คนมีปัญญาก็วิปริต ได้)

อยากฝากถึง DJ ว่า... "การใดที่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคคลบาท เราคนไทยไม่มีใครทำ"

ที่ผ่านมาเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับ "ทักษิณ" พวกท่าน คิดไปเองทั้งนั้น...แล้วก็นำมาแอบอ้าง....

เพื่อหวังผลทางการเมือง...

แต่สิ่งที่พรรคพวกของคุณ DJ ได้ทำในอดีต ดังภาพข้างล่างนี่แหละครับ...

คือ "การระคายเคืองเบื้องพระยุคคลบาท"  อย่างแท้จริง...

และไม่คิดว่าจะมีคนไทยคนไหนจะทำได้อย่างพวกท่านทำ...อีกแล้ว...

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ดูเอาเองว่าผู้นำ US ปฏิบัติอย่างไรกับ นายกหญิง เทียบกับนายกมาร์ค

ว่ากันเลยครับ... หากมองว่านายกหญิง แสดงการจับมือไม่เหมาะสม ในทัศนะคติของสลิ่ม

เรามาดูกันดีกว่าไหมครับ...ว่าปธน.โอบาม่า ปฏิบัติอย่างไรกับ นายกทั้ง 2 เหมือนหรือแตกต่าง...

Clip ที่ 1 เป็นตาของนายกมาร์ค ในการประชุม G20 .... ลองดูวินาที 18-20 นะครับ



แล้วมาดู....

Clip ที่ 2 ถึงตานายกหญิงของไทย ในการประชุม ASEAN ครั้งนี้
จับตาดูตั้งแต่ช่วงเวลา 1นาที50วินาที นะครับ



การปฎิบัติต่างกัน "ราวฟ้ากับเหว" แม้ว่าบรรดาสลิ่มทั้งหลายจะออกมาบอกว่า

"  เฮ้...ของนายกมาร์คนั่นมันนอกเวที เค้าอาจไม่มีเวลาจับมือก็ได้ เอาบนเวทีมาแข่งสิฟระ  "       

หากเป็นเช่นนั้น... รบกวนสลิ่มเบิกเนตรหน่อยครับ ระยะเวลาเป็นนาที  นะครับ
ที่ปธน.โอบาม่า จับมือกับ นายกรณ์ จาติกวณิช และ ดร.นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ
แต่เบือนหน้า ออกจากนายกมาร์ค ทันทีที่หันมาพบ....

อยากได้รูปบนเวทีใช่ไหมครับ... จัดไป

พอไหมครับ กับการไม่สบตาของ ปธน.สหรัฐ บนเวทีระดับนานาชาติ(เสียดายไม่มีคลิป)
จัดอีก...

จนมีคนนำมาทำล้อเลียน... แบบนี้


แน่นอน... เมื่อภาพของนายกยิ่งลักษณ์ ออกมาแบบคนละเรื่องกับนายกมาร์ค

เป็นธรรมดา ที่บรรดาสาวกพ่อรูปหล่อ จะต้องออกมาดราม่า 

ใส่ไฟให้นายกยิ่งลักษณ์ ให้ดูแย่บ้างอะไรบ้าง... 

เพื่อพ่อหนุ่มหล่อของเราดู "  เยิน"  จนเกินไป....

ทำไมต้องเฉลิม อยู่บำรุง

จากบทความที่แล้ว เรื่องพรฎ.อภัยโทษ ในที่สุด... หวยออกแล้วครับ

"ไม่มี ทักษิณ อยู่ในโผ"... สลิ่มหงายท้องไปตามๆกัน บางคนถึงกับออกอาการ...

(แปลกจริง พอจะกลับไทยก็ด่า... พอไม่มา นึกว่าจะดีใจ ด่าอีก...หาว่าทำรอเก้อ)

เป็นตามคาดหมาย ว่านี่อาจเป็นยุทธศาสตร์ ของ ทักษิณ ในการล่อเป้า ล่อเสือออกจากถ้ำ

น่าเสียดาย ที่ผู้เล่น ยังเป็นตัวเดิมๆ ซึ่งไม่มีราคาแล้วสำหรับเวลานี้

กลับมาที่คำถาม.... ทำไมทักษิณจึงเลือกใช้เฉลิม เป็นหัวหอก ในการเปิดเกมส์ครั้งนี้

คลิปนี้คงอธิบายได้ดีที่สุด.... ว่าทำไม ทักษิณ จึงเลือก เฉลิม มารับหน้าที่นี้



การตั้งคำถามแบบ ปะ ฉะ ดะ ขอ นักข่าวช่อง7 (สมจิตต์ นวเครือสุนทร) ซึ่งเผลอๆ

อาจจะเข้าข่ายมิบังควรเสียด้วยซ้ำ....

เป็นการตั้งคำถามแบบที่ว่า ถ้าไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพ เจอครั้งแรกก็หงายท้อง...

ในหัวเรื่องของคลิปนี้ อาจจะบอกว่า "เหลิมไปไม่เป็น" หรือ "ไปต่อไม่ได้"

หากลองพิจารณาดูดีๆ จะพบว่า... นี่คือ "ลูกพริ้ว" ของผู้ชายคนนี้ ที่นายกหญิงของเราไม่สามารถทำได้

และ ทักษิณ คงรู้และพอเดาได้ ว่าหากเดินกมส์นี้ จะต้องพบกับแรงเสียดทานอะไรบ้าง
และ งานแบบนี้ คงไม่เหมาะกับ น้องสาว ของตนเองเป็นแน่...

หากปล่อย น้องสาว รับแรงเสียดทานด่านแรก งานอื่นๆ อาจไม่ต้องทำ หรือ ขวัญเสียตั้งแต่วันแรก
(เลยให้ไปจัดการเรื่องบริหาร ส่วนเรื่องลุยๆ เดี๋ยวส่งพวก ปะ ฉะ ดะ เหมือนกันไปลุยเอง)

ที่นายเฉลิม ไม่ยอมตอบนักข่าวหน้าตาหนูหิ่นในวันนั้น... ก็เพราะจะรอหวยออกวันนี้...

วันที่รัฐบาลตอกหน้าบรรดาสลิ่มทั้งหลาย อีกครั้ง....ว่า "ไม่มี ทักษิณ ในโผ 555+"

จึงโปรดทราบโดยทั่วกัน....

(ปล.จริงๆ สลิ่มเอง ก็หน้าฉีกไปหลายครั้งแล้ว ด้วย post ดราม่าทั้งหลายที่ทั้งผิดวัน ผิดเวลา ผิดเนื้อหา)

วาทะกรรม แสดง ถึงวุฒิภาวะ และ ความคิดอ่านของคน

ไม่รู้ว่าจะด้วยความอิจฉา หรือ ด้วยความอยากเตือนนายก ถึงวิธีการจับมือ กับ ปธน. โอบาม่า

แต่สิ่งที่ บรรดาเหล่าผู้ต่อต้านรัฐบาลและนายกทั้งหลาย ออกมาโพสต์ในโลกไซเบอร์

กลับเป็นการประณามถึงขั้นว่า ไม่ต่างจาก กะหรี่... อันนำมาซึ่งข้อสงสัยข้อผู้เขียนว่า...

" กลุ่มคนผู้ได้ชื่อมีการศึกษา และดูถูกชาวบ้านว่าโง่กว่าตนเองนั้น จะคิดได้แค่นี้จริงๆ หรือ "


นี่คือตัวอย่าง page ที่แรงแต่ไม่ได้อะไร... (ขอขอบคุณ go6TV สำหรับรูป)

กับความเห็นที่ได้แสดงออกมา

ภาษาของผู้เขียนในหน้าดังกล่าว ใช้ไทยคำอังกฤษคำ คงอยากจะแสดงว่า

"ข้าพเจ้านี้แน่ รู้จักธรรมเนียมสากลเป็นอย่างดี"

 แต่... เมื่ออ่านข้อความด้านล่าง ถึงกับต้องหงายหลัง เพราะ สำนวนที่กลั่นออกมา
ได้แสดงถึง

"ก้นบึ้งหัวใจ" "วุฒิภาวะ" และ "ทัศนคติ" ของผู้เขียน อย่างชัดแจ้ง...

แท้ที่จริงแล้ววาทกรรม "ผู้หญิงขายบริการ" หรือ "กะหรี่" ที่ใช้ว่า นายกรัฐมนตรีหญิงในหลายครั้งหลายครา ต่างกรรมต่างวาระ มิได้ถูกนำมาพูดใน page นี้เป็นครั้งแรก...

 แต่ที่มาของวาทกรรมนี้มาจาก ผู้ชายที่แสนแมนมากที่สุดของประเทศไทย

"นายเอกยุทธ อัญชัญบุตร" ใน website และใน facebook page ของเขาเอง....


เพราะฉะนั้น วาทกรรมที่บรรดาผู้ต่อต้านนายกรัฐมนตรีทั้งหลายใช้ ก็ไม่ได้ประดิษประดอยมาจากไหน

นอกจาก "คัดลอก" วาทกรรม แบบเอาสะใจเข้าว่า ของผู้ชายมาดแมน ที่หนีคดีแชร์ชาร์เตอร์ไปนับสิบปี 

แหละนี่คือ การกระทำ ของผู้ที่เรียกตัวเองว่า "ผู้มีปัญญา" เรียกตัวเองว่า "ผู้มีการศึกษา" และดูถูกผู้อื่นว่าโง่กว่าตนเอง

การติชมนั้น ควรเป็นการ "ติเพื่อก่อ" มิใช่ "ติแบบด่าทอ" หรือ "ดูถูกเหยียดหยาม"

เพราะการติแบบด่าทอ หรือ เหยียดหยามผู้อื่น ไม่เกิดประโยชน์ แถมยังบ่งถึงนิสัยใจคอ ทัศนคติ และสภาพจิตใจ ของผู้ติผู้นั้นด้วยครับ 

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พรฎ.อภัยโทษ...เกมส์การเมืองครั้งใหม่ ?

ช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ข่าวเรื่องของการประชุมครม.ในวาระของ พรฎ.อภัยโทษ  ที่มีเสียงจากฝ่ายต่างๆ ออกมาว่า "ล็อกเสป็กนายใหญ่"    เพื่อพานายใหญ่กลับบ้าน... http://www.thaipost.net/news/161111/48195

น่าแปลกตรงที่ว่า ทำไมจึงต้องทำในช่วงเวลานี้ ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองยังไม่พ้นวิกฤตน้ำท่วม
ข่าวดังกล่าว ถูกมองจากคน 2 ฝั่ง...
ฝั่งเชียร์รัฐบาล มีทั้งกระแส ของการเชียร์ให้ทำจริง และกระแสที่ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าเกมส์นี้จะทำให้รัฐบาลโดนปิดฉากได้ไวขึ้น หลายคนมองไปว่ารัฐบาลเสียรูปมวย เดินไม่เป็นระเบียบต่างคนต่างเดินมั่วไปหมด
ฝั่งตรงข้ามรัฐบาล อันนี้ไม่ต้องกล่าวถึง เพราะเตรียมทัพพร้อมเดินหน้ารบเต็มอัตราศึก

แต่เกมส์นี้ คนอย่างคุณทักษิณ น่าจะอ่านออกและคาดเดาได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเดินเกมส์พาตัวเองกลับบ้านในเวลานี้ ซึ่งดูเหมือนจะไวเกินไปสำหรับรัฐบาลที่พึ่งบริหารงานมาได้ไม่ถึง 6 เดือน แถมวิกฤตการณ์น้ำท่วม ก็จะไม่สู้จะผ่านไปด้วยดี

คุณทักษิณ ยังเลือกที่จะเล่นเกมส์นี้ โดยให้ผู้นำขบวนสำคัญของเกมส์นี้เป็น นายเฉลิม อยู่บำรุง 

หากวิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าว ผู้เขียนไม่คิดว่า เรื่องของพรฏ.อภัยโทษ ที่นำทีมโดยเฉลิม จะเป็นเพียง การทำเพื่อเอาใจชะเลียนายใหญ่ แบบที่สส.หลายคนในพท.พยายามทำ หรือเป็นความพยายามนำทักษิณกลับบ้านจริงๆ เพราะ เมื่อพยายามมองหาประโยชน์จะการนำทักษิณกลับบ้านแล้ว...แทบไม่มี และอาจเกิดปัญหาที่จะตามมาอีกมากมาย

หากแต่นี่อาจเป็นความพยายามของคุณทักษิณ ในการเป็น " ผู้เปิดเกมส์รุก" มากกว่าจะตั้งรับแบบเดิมๆ

การปล่อยข่าวออกมาทำนองนี้ ในช่วงเวลาแบบนี้ สร้างความประหลาดใจ ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย เพราะหากพิจารณาช่วงเวลาแล้ว ไม่เกิดประโยชน์อะไรที่ทักษิณจะทำแบบนี้...

แต่คนที่ได้ประโยชน์ไปมิใช่น้อย นั่นคือ ฝ่ายคุณทักษิณ 

เพราะเกมส์นี้ คุณทักษิณสามารถเปิดหน้าคู่ต่อสู้ของตัวเองออกมาได้เกือบครบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นหน้าเดิม ซึ่งจากการข่าวก่อนหน้านี้ ระบุว่าจะมีการใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ แต่จะอยู่ในช่วงของการหาข้อมูลและวางแผนเดินเกมส์ (แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมสำหรับฝ่ายตรงข้ามในเกมส์นี้)

แปลว่า... เกมส์นี้ คุณทักษิณ เป็นฝ่าย " เปิดเกมส์" เพื่อให้ฝ่ายตรงข้าม "เดินตาม"

และดูเหมือนฝ่ายตรงข้าม ก็เดินตามเส้นที่คุณทักษิณขีดไว้.... 
ดังจะเห็นได้จาก มีการขยับเขยื้อนการเคลื่อนไหว
ตั้งแต่ Social network ทั้งหลาย Facebook, Twitter
สส.ของพรรคประชาธิปปัตย์หลายคน... (ลองอ่าน twitter @Theptai นะครับ)
และรายล่าสุด..... พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม) เจ้าเก่า... ขานรับ วัน-เวลาเรียบร้อยแล้ว

การปล่อยข่าวเพื่อเปิดหน้าคู่ต่อสู้ ในเวลาที่คู่ต่อสู้เองยังไม่พร้อม นับเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับเกมส์นี้ และยิ่งคู่ต่อสู้เลือกเดินตามเส้นที่คุณทักษิณขีดไว้ ยิ่งนับว่าเข้าทาง
ถ้าการวิเคราะห์นี้ ตรงตามความคิดของทักษิณ จริง... ป่านนี้ทักษิณคงนั่ง หัวเราะอยู่ที่ดูไบ 

ที่ต้องติดตามดูต่อไปนั่นคือ 

ทักษิณ และ รัฐบาล จะเดินเกมส์อย่างไร เมื่อรู้แล้วว่า ศัตรูทัพหน้าของตนเองเป็นใคร เพราะหากเดินเกมส์ไม่ดี อาจพังพาบเหมือนที่ผ่านมาก็เป็นได้

ในครั้งหน้า... จะวิเคราะห์ว่า ข่าวเรื่องพรฏ.อภัยโทษ ทำไมต้อง "เฉลิม" เป็นหัวขบวน... ทั้งที่ตนเองก็มีน้องสาวนั่งเป็นนายกอยู่แล้ว